ปลาคือสุดยอดอาหารที่หลายคนโปรดปราน ด้วยโปรตีนคุณภาพสูงและกรดไขมันดีอย่างโอเมก้า-3 ที่เป็นประโยชน์ต่อหัวใจและสมอง แต่รู้หรือไม่ว่า การกินปลาแบบผิดๆ อาจนำมาซึ่งอันตรายที่มองไม่เห็น ทั้งสารโลหะหนัก สารพิษตกค้าง หรือแม้แต่พยาธิที่ซ่อนอยู่? นักโภชนาการ จาง อวี้ซี ชาวไต้หวัน ได้ออกมาเตือนภัยและชี้แนะวิธีบริโภคปลาอย่างปลอดภัย เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลถึงภัยแฝง!
ส่วนไหนของปลาที่ควรระวังเป็นพิเศษ?
แม้ปลาจะดีต่อสุขภาพ แต่บางส่วนของปลาอาจเป็นแหล่งสะสมสารอันตรายได้:
- หนังปลา: เป็นแหล่งของคอลลาเจนและไขมันดีก็จริง แต่ หนังปลายังเป็นส่วนที่มีแนวโน้มสะสมโลหะหนักมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปลาทะเลขนาดใหญ่ จึงควรบริโภคด้วยความระมัดระวังและในปริมาณที่เหมาะสม
- หัวปลา: มักนำมาทำเมนูนึ่งหรือต้มซุปที่อร่อยและมี DHA, EPA สูง แต่สิ่งสำคัญคือ บริเวณเหงือกปลา มักเป็นแหล่งสะสมของสารพิษและพยาธิ ดังนั้น การทำความสะอาดอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนนำมาปรุงอาหารจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
- เครื่องในปลา: คือส่วนที่ มีการสะสมของสารพิษและโลหะหนักมากที่สุด และมีคุณค่าทางโภชนาการค่อนข้างจำกัด นักโภชนาการจาง อวี้ซี แนะนำว่าโดยทั่วไป ไม่จำเป็นต้องบริโภคเครื่องในปลา และผู้ที่มีปัญหาทางเดินอาหารควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด
5 เมนูปลาที่ควรระวัง: กินอย่างไรให้ปลอดภัย?
เพื่อสุขภาพที่ดีและหลีกเลี่ยงความเสี่ยง จาง อวี้ซี ได้ชี้เป้า 5 เมนูปลาที่คุณควรระมัดระวังในการบริโภค เน้นย้ำว่าไม่จำเป็นต้องงด แต่ควรเรียนรู้วิธีจัดการความเสี่ยง:
- ปลาขนาดใหญ่ (Giant Fish):
- ตัวอย่าง: ปลาธง, ปลาทูน่า, ปลาฉลาม
- ความเสี่ยง: เนื่องจากอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร ทำให้มีแนวโน้มสะสม สารปรอทและโลหะหนัก ได้ในปริมาณมาก
- คำแนะนำ: หญิงตั้งครรภ์และเด็กเล็กควรหลีกเลี่ยงการบริโภคปลาขนาดใหญ่เหล่านี้ หรือจำกัดปริมาณให้เหมาะสม
- เมนูปลาทอด (Deep-Fried Fish):
- ความเสี่ยง: การทอดปลาด้วยน้ำมันที่อุณหภูมิสูงทำให้เกิด ไขมันทรานส์ (Trans Fat) ซึ่งหากบริโภคเป็นประจำ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ
- คำแนะนำ: แม้จะอร่อย แต่ไม่ควรรับประทานเมนูปลาทอดเป็นอาหารหลักในชีวิตประจำวัน ควรบริโภคเป็นครั้งคราวเท่านั้น
- เมนูปลาสไตล์จีน (Chinese-Style Fish Dishes):
- ตัวอย่าง: ปลาตุ๋นซีอิ๊ว, ปลาราดเปรี้ยวหวาน
- ความเสี่ยง: เมนูเหล่านี้มักมี ปริมาณโซเดียมสูงมาก จากส่วนผสมของซีอิ๊วหรือซอสปรุงรสต่างๆ
- คำแนะนำ: ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่มีแนวโน้มบวมน้ำ ควรลดปริมาณเครื่องปรุง หรือเลือกเมนูที่ใช้เครื่องปรุงน้อยลง
- เมนูปลาทะเลน้ำลึก (Deep-Sea Fish):
- ความเสี่ยง: แม้จะอุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ที่มีประโยชน์มหาศาล แต่ปลาทะเลน้ำลึกบางชนิดก็อาจแฝงด้วย โลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในตัวปลา
- คำแนะนำ: ควรเลือกปลาทะเลขนาดเล็ก หรือปลาที่มาจากแหล่งที่มาชัดเจนและเชื่อถือได้ เช่น ปลาซาบะ หรือ ปลาอาจิ (ปลาทูแขกญี่ปุ่น) ซึ่งมักจะมีปริมาณโลหะหนักสะสมน้อยกว่าและปลอดภัยกว่า
- เมนูปลาดิบ (Raw Fish / Sashimi):
- ความเสี่ยง: หากปลาดิบไม่ผ่านกระบวนการแช่แข็งที่เหมาะสมตามมาตรฐาน หรือไม่ได้มาจากแหล่งที่สะอาดและควบคุมคุณภาพอย่างเคร่งครัด อาจมีความเสี่ยงในการปนเปื้อน พยาธิ (Parasites) หรือ เชื้อโรค ต่างๆ
- คำแนะนำ: ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ, หญิงตั้งครรภ์, และเด็กเล็ก ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคเมนูปลาดิบ เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
กินปลาอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ประโยชน์เต็มที่?
เพื่อให้การบริโภคปลาเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง นักโภชนาการจาง อวี้ซี แนะนำวิธีปฏิบัติ:
- เลือกแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ: ซื้อปลาจากร้านค้าหรือตลาดที่สะอาด มีการเก็บรักษาที่ดี และมีแหล่งที่มาชัดเจน
- ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี: โดยเฉพาะส่วนหัวและเหงือกปลา ควรล้างให้สะอาดหมดจดก่อนนำไปปรุงอาหาร
- ปรุงสุกอย่างทั่วถึง: การปรุงปลาให้สุกทั่วถึงจะช่วยฆ่าพยาธิและเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมาได้
- หลากหลายชนิด: ไม่ควรกินปลาชนิดเดียวซ้ำๆ ควรบริโภคปลาหลากหลายชนิด ทั้งปลาทะเลขนาดเล็กและปลาจากแหล่งน้ำจืดที่สะอาด เพื่อลดความเสี่ยงจากการสะสมสารพิษ
- จำกัดปริมาณการบริโภคปลาขนาดใหญ่และเมนูที่มีความเสี่ยง: แม้จะชอบ แต่ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ และไม่บ่อยจนเกินไป
- สังเกตอาการผิดปกติ: หากมีอาการผิดปกติหลังการบริโภคปลา เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
การบริโภคปลาอย่างชาญฉลาดและใส่ใจในรายละเอียด จะช่วยให้คุณได้รับคุณประโยชน์จากปลาอย่างเต็มที่ พร้อมหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากสารพิษและพยาธิที่อาจแฝงมา เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวของคุณเอง
แหล่งที่มา www.sanook.com/news/9822906/